JR ลั่นปี 66 เข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่โชว์ Backlog นิวไฮ 7.5 พันลบ.-จ่อคว้าบิ๊กโปรเจคเร็วๆนี้หนุนงานในมือทะลุ 1 หมื่นลบ. ดันรายได้ 3-5 ปีข้างหน้าโตกระฉูด

JR ลั่นปี 66 เข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่โชว์ Backlog นิวไฮ 7.5 พันลบ.-จ่อคว้าบิ๊กโปรเจคเร็วๆนี้หนุนงานในมือทะลุ 1 หมื่นลบ. ดันรายได้ 3-5 ปีข้างหน้าโตกระฉูด

บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) ปักหมุดปี 66 เข้าโหมดเติบโตรอบใหม่ ในฐานะหุ้น Growth Stock  วางเป้ารายได้โต 20% โชว์งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) นิวไฮแตะ 7.5 พันล้านบาท จ่อคว้าบิ๊กโปรเจครถไฟฟ้าสายสีเหลืองมูลค่า 3 พันล้านบาท คาดมีข่าวดี! เร็วๆนี้ หนุนงานในมือทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ผลักดันรายได้ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าโตกระฉูด

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) (JR) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเปิดเมือง ทำให้มีงานในส่วนของภาครัฐและเอกชนเปิดประมูล เพิ่มโอกาสในการรับงานมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% เทียบกับปีที่ผ่านมา  

ทั้งนี้ ปัจจุบัน JR มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 7.5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าสร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ และเร็วๆนี้ คาดว่าจะได้รับงานโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมูลค่า 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ (Backlog) ทะลุ 1 หมื่นล้านบาททยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า  

“ปี 2566 ถือเป็นการกลับมาเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ของ JR อย่างชัดเจน ในฐานะหุ้น Growth stock ที่มีมูลค่างานในมือมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท รองรับการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด” 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JR กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์โดยรวมของประเทศไทยที่กลับสู่ภาวะปกติ การท่องเที่ยวฟื้นตัวทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้น ขณะเดียวกันภาพรวมของการลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชนมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับงานใหม่ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นอีกด้วย  อีกทั้ง บริษัทฯยังได้เพิ่มกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยเน้นการเข้าไปประมูลงานในส่วนของลูกค้าประเภทธุรกิจออยล์แอนด์แก๊สให้มากขึ้น เพราะมองเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้มากขึ้นในระยะยาวจะได้มีความมั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น 

ข่าวเกี่ยวข้อง